ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงทำผลงานฮอตต่อเนื่องภายหลังที่เปิดบ้านไล่ทุบ อาแซ่ด อัล์คมาร์ 4-0 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นำมาซึ่งการทำให้พวกเขาเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม แอล ในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 เดือนธันวาคมที่ผ่านมา
เกมนี้เจ้าของบ้านเน้นย้ำใช้ผู้เล่นดาวรุ่งผสมกับหน้าแข้งเก๋า
หากแม้ในตอน 45 นาทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ด จะเล่นติดขัดพอควร รวมทั้งแทบจะหาจังหวะทำประตูกลุ่มเยี่ยมไม่ค่อยได้เลย แต่ว่าในช่วงหลัง โอเล่ กุนทุ่งนาร์ โซลชา มีการปรับปรุงแก้ไขแท็คติก ทำให้ “ผีแดง” จัดแจงครอบครองเกมได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แล้วก็ซัด 4 ตุงใน 11 นาทีแค่นั้น
เวลานี้สาวก “เร้ด อาร์มี่” อาจจะเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เยอะขึ้น ภายหลังที่ตอนต้นฤดูนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มองไม่ค่อยมีอนาคตภายใต้การกุมบังเหียนของ โซลชา แต่ว่าในขณะนี้ดูอย่างกับว่าหลายๆสิ่งหลายๆอย่างจะเริ่มเข้าที่เข้าทางขึ้นเรื่อย
มาดูส่วนสำคัญของเกมนี่้กัน
1. กรีนวู้ด ยิ่งเล่นยิ่งเด่น
เวลานี้สาวก “เร้ด อาร์มี่” จำต้องเขียนชื่อ เมสัน กรีนวู้ด ในฐานะหน้าแข้งดาวรุ่งขวัญใจคนใหม่ของพวกเขากันแล้ว ภายหลังนักฟุตบอลโชว์ฟอร์มระเบิดเทิดทูนเทงในแมตช์รับการมาเยี่ยม อาแซ่ด อัล์คมาร์ ด้วยการตะบัน 2 ประตูที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
กรีนวู้ด เป็นนักฟุตบอลลำแข้งดาวรุ่งที่เหี้ยมโหดเช่นเดียวกันกับกองหน้าที่มีประสบการณ์สูง เนื่องจากว่าลีลาท่าทางการเล่น และก็การจบสกอร์ของเจ้าหนู “ไม้เขียว” เฉียบคมมากมายๆจนถึงทำให้แฟนบอล “ปีศาจแดง” หลายๆคนหวนคิดถึงการตะบันประตูของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ อย่างยิ่งจริงๆ
ดาวยิงวัย 18 ปีลงเล่นเป็นตัวจริงและไม่ทำให้ โอเล่ กุนทุ่งนาร์ โซลชา จำเป็นต้องผิดหวัง เมื่อสวมบทวีรบุรุษซัดเบิ้ล แล้วก็ยังเรียกจุดโทษให้กับสังกัดเดิมได้อีกต่างหาก ทำให้เวลานี้นักฟุตบอลตะบันไปแล้ว 6 ประตูในช่วงฤดูกาลนี้เสมอกันกับ อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล หัวหอกเลือดเฟร้นช์
ที่สำคัญ กรีนวู้ด เปลี่ยนเป็นดาวซัลโวสูงสุดในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ด้วยการซัดไป 4 ประตูตลอดการแข่งรายการนี้
2. ปลดล็อกช่วงหลัง
แม้ดูกันอย่างเป็นกลาง จำต้องสารภาพว่าในครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานตกอับอย่างยิ่ง โดยพวกเขาเกือบจะไม่มีช่องทางทำประตู อัล์คมาร์ เลย แล้วก็ฟอร์มการเล่นก็ค่อนข้างจะติดขัดดูแล้วน่าอึดอัดจนถึงทำให้แฟนบอล “ผีแดง” รู้สึกกังวลใจ
แต่ โซลชา สามารถแก้เกมได้เป็นอย่างดีในเวลาพักครึ่ง แล้วก็ทำให้สมาชิกกล้าเล่นเกมบุกเยอะขึ้นเรื่อยๆ โดยจะมองเห็นได้ว่า เบรนดอน วิลเลี่ยมส์ พากเพียรวิ่งเพิ่มเกมขึ้นสูงในฝั่งแบ็กซ้าย เวลาที่แบ็กขวา แอชลี่ย์ ยัง ก็ทำเหมือนกัน แล้วก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการได้ประตูขึ้นนำ
ในส่วนของ กรีนวู้ด บ่งบอกถึงถึงความสามารถและก็ความเป็นกองหน้าที่อนาคต โดยเขาสามารถช่วยกลุ่มสร้างจังหวะได้หลายต่อหลายที รวมถึงการเรียกจุดลูกโทษ แล้วก็การซัดประตูงามๆทั้งคู่ลูก ที่สำคัญ “เร้ด เดวิลส์” ใช้เวลาเพียงแต่ 11 นาทีสำหรับเพื่อการตะบัน 4 ประตู โน่นทำให้ตอนที่เหลือกลุ่มเล่นได้สบายสุดๆ
โดยภายหลังสกอร์นำ 4-0 แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเล่นเกมบุกได้แบบอิสระ แถมมิติสำหรับการเล่นเกมรับก็หนักแน่นมากมายๆผลงานในแมตช์นี้จะต้องสารภาพว่านักเตะ “ปีศาจร้ายแดง” ชุดดาวรุ่งผสมหน้าแข้งเก๋า เล่นกันได้อย่างเข้ากันพอดี และก็งานนี้จะต้องชูเครดิตให้ โซลชา จริงๆ
3. ขาดช่องทางสำหรับเพื่อการเล่นขอบเส้น
ด้วยเหตุว่าแมตช์นี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ตั๋วเข้ารอบ 32 กลุ่มในที่สุดไปแล้ว แล้วก็ลุ้นเพียงแค่การเป็นแชมป์กรุ๊ปเพียงแค่นั้น ทำให้ โซลชา ตกลงใจพักหน้าแข้งสำคัญโดยยิ่งไปกว่านั้นในแผงเกมรุกอย่าง แดเนี่ยล เจมส์ แล้วก็ มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำให้การเล่นเกมรุกทางกราบมองฝืดๆไปบ้างในเกมนี้
อันเดรียส เปเรยร่า ได้รับมอบหมายให้ยืนทางกราบขวา รวมทั้งโน่นไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของเขา ในครึ่งแรก ดาวเตะชาวบราสิเลียนเล่นไม่ออกเลย และก็เกือบจะไม่มี่ส่วนสำหรับการเล่น โน่นชี้ให้เห็นว่า โซลชา ควรต้องเสริมผู้เล่นเกมรุกทางขอบเส้นไม่เช่นนั้นกลุ่มพบเจอปัญหาในอนาคตแน่ๆเมื่อขาด เจมส์ กับ แรชฟอร์ด
ด้วยเหตุดังกล่าวการเสริมขุมกำลังเชิงลึกด้วยผู้เล่นปีกก็เลยเป็นสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องรีบทำงานเป็นการด่วน กระนั้นถ้าหากจะคิดว่า ทาฮิธ ชอง สามารถรับบทบาทปีกได้ก็จริง แม้กระนั้นฟอร์มในเกมนี้ชี้ให้เห็นว่าเขายังไม่เหมาะสม ด้วยเหตุดังกล่าวในตอนตลาดจำหน่ายนักฟุตบอลรอบ 2 ม.ค.นี้ “ผีแดง” อาจจะต้องจ่ายเงินเสริมกองทัพด่วน
4. การ์เนอร์ ยิ่งเล่นยิ่งมั่นอกมั่นใจ
บางครั้งอาจจะชั่วร้ายไปหน่อยแม้จะโบ้ยข้อผิดพลาดให้กับ เนมานคุณย่า มาตำหนิช ที่ทำให้แผงมิดฟิลด์ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นไม่ค่อยดีนักในตอนครึ่งแรก เพราะว่าถ้าหากดูแบบแฟร์ๆเจมส์ การ์เนอร์ จัดว่ามีส่วนกับฟอร์มฝืดๆตอน 45 นาทีแรกของกลุ่มด้วยด้วยเหมือนกัน
การ์เนอร์ เล่นแบบลังเล, พยายามย้ำไม่มีอันตรายไว้ก่อน และไม่กล้าเข้าปะทะ อย่างไรก็แล้วแต่ในช่วงหลัง เจ้าตัวราวกับจะได้ยาดีมาจาก กุนซือหน้าทารก ทำให้กล้าที่จะเพิ่มเกมบุกเพิ่มมากขึ้น แล้วก็ยังมีส่วนสำหรับการแย่งบอลจากผู้เล่นอัล์คมาร์ รอบๆกรอบจุดโทษ ก่อนส่งให้ กรีนวู้ด กดประตู
ฟอร์มในตอน 45 นาทีข้างหลัง บอกให้เห็นอย่างเห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวมีความเชื่อมั่นและมั่นใจมากเพิ่มขึ้น กล้าที่จะผ่านบอลขวางสนามซึ่งสิ่งนี้ไม่มีให้มองเห็นเลยในตอนครึ่งแรก แน่ๆว่านี่เป็นการดีที่ได้มองเห็น การ์เนอร์ เบาๆแสดงความสามารถพิเศษออกมาเรื่อยรวมทั้งงานนี้เขาได้ศึกษาอะไรล้นหลามจากการสบโอกาสเล่นครบ 90 นาที
5. โซลชา โชว์กึ๋นตลอด
ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาสาวก “เร้ด อาร์มี่” บางบุคคลบางครั้งอาจจะตั้งเรื่องที่น่าสงสัยว่า โซลชา เป็นผู้ที่สมควรที่จะมากมายอบกู้ความโหฬารของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไหม ภายหลังทำผลงานได้สุดเสื่อมโทรมในตอนต้นฤดู จนกระทั่งแปลงเป็นสถิติออกตัวฤดูกาลที่แย่ที่สุดในรอบ 31 ปี
กระนั้นคำโบราณที่ว่า “แนวทางพิสูจน์ม้า ระยะเวลาพิสูจน์คน” บอกให้เห็นแล้วว่าเป็นความจริง เมื่อ โซลชา เบาๆสร้างกลุ่มให้กับระบบ แล้วก็เริ่มบ่งบอกถึงผลสรุปออกมาเรื่อยตั้งแต่การคว่ำ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในสมัยที่โชเซ่ มูรินโญ่ จับบังเหียน รวมทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้เขากู้เลื่อมใสคืนมาจากแฟน “ผีแดง” อย่างสม่ำเสมอ
ปัจจุบันในแมตช์ต่อกร อัล์คมาร์ ในตอน 45 นาทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ด บางครั้งอาจจะเล่นแบบเอื่อยเฉื่อย จนถึงแทบจะไม่อาจจะบีบคั้นกลุ่มเยี่ยมจากฮอลแลนด์ได้เลย ที่สำคัญยังเล่นผิดพลาดหลายครา แต่ว่าช่วงหลัง “ผู้จัดการทีมเบบี้เฟซ” โชว์กึ๋นแก้เกม ผสมกับใส่แรงกระตุ้นให้ลำแข้งวัยกระเต๊าะ กล้าเล่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่หน้าแข้งเก๋าก็ขยันวิ่งกันไม่หยุด จนกระทั่งนำมาซึ่งชัยสุดหรู
งานนี้จำเป็นต้องบอกเลยว่าชัยที่งดงามอย่างงี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา น่าจะได้รับคำชื่นชมอย่างยิ่ง แล้วก็แฟนบอลของกลุ่มคงรู้สึกได้ว่า สมัยก่อนหัวหอกซูเปอร์ดูดซับ เป็นบุคคลที่สมควรที่จะเข้ามาสืบต่องานของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้จริงๆ
สนใจสมัครร่วมเดิมพันได้ที่ FIFA555
ทีเด็ดฟุตบอลติดตามวิเคราะห์บอลรายวันและอื่นๆได้ที่ ทีเด็ดฟุตบอลวันนี้
ติดตามข้อมูลข่าวเพิ่มเติมได้ที่ หน้าหลัก